Music 🎧

Top 10 Watch จัดอันดับแบรนด์นาฬิกายอดนิยมที่สุดในโลก

 Top 10 Watch การจัดอันดับแบรนด์นาฬิกาสุดหรูทั่วโลกที่ได้รับความนิยม นาฬิกาเรือนหรูซึ่งนอกเหนือจากการเป็นอุปกรณ์เพื่อบอกเวลาแล้ว ยังเป็นสิ่งที่สามารถบอกถึงฐานะและรสนิยมของผู้สวมใส่ได้อีกด้วย หรือแม้แต่ในแง่ของการเป็นสินค้าเพื่อการลงทุน ของนักสะสมตัวยงทั้งหลาย ความโดดเด่นของดีไซน์อันหรูหราผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีที่เข้ากันได้อย่างลงตัว บทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ 10 แบรนด์ที่ยังคงความคลาสสิก ซึ่งคนทั่วโลก ชื่นชอบและใฝ่ฝันอยากครอบครองเป็นเจ้าของ

 

อันดับที่ 10 Rolex (โรเล็กซ์)

Rolex (โรเล็กซ์)

นาฬิกาแบรนด์หรู ที่ติดอันดับ Top 10 Watch ซึ่งเป็นที่นิยมของเหล่าบรรดาเซเลบริตี้ รวมถึงนักธุรกิจชั้นแนวหน้า น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก “Rolex” (โรเล็กซ์) ก่อตั้งโดย ฮันส์ วิลส์ดอร์ฟ (Hans Wilsdorf) และ อัลเฟรด เดวิส (Alfred Davis) ที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อ ปี ค.ศ. 1905 ภายใต้ชื่อ “Wilsdorf and Davis”

ต่อมา วิลส์ดอร์ฟ ต้องการให้บริษัทของตน มีชื่อเรียกที่กระทัดรัด ง่ายต่อการอ่านออกเสียงในทุกภาษา จึงเป็นที่มาของการเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Rolex (โรเลกซ์) โดยคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ คือ ความหรูหรา เที่ยงตรง น่าเชื่อถือ เป็นบริษัทผลิตนาฬิกาแบบครบวงจร ซึ่งได้รับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าอย่างเป็นทางการใน ปี ค.ศ. 1908

นาฬิกาจาก Rolex ประสบความสำเร็จอย่างมากในวงการอุตสาหกรรมนาฬิกา โดยเป็นต้นแบบให้กับนาฬิการุ่นหลังอีกหลายรุ่นด้วยกัน เช่น นวัตกรรมการแสดงวันที่ในรุ่น Datejust, ความสามารถในการกันน้ำในระดับความลึก 100 เมตร (330 ฟุต) ของรุ่น Submariner, การแสดง 2 เขตเวลาพร้อมกันของรุ่น GMT-Master ซึ่งถือได้ว่า ทางแบรนด์เป็นผู้นำด้านการคิดค้นในการผลิตนาฬิกาที่ดี และชาญฉลาดที่สุด

Top 10 Watch Rolex

ด้วยผลแห่งการทำงานอย่างหนักและทุ่มเท เริ่มต้นจากจุดล่างสุด ส่งผลให้ Rolex ขึ้นมายืนอยู่บนจุดสูงสุดของอุตสาหกรรมการผลิต นาฬิกาเรือนหรู และมีฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลก โดยสามารถผลิตนาฬิกาได้ถึงราว ๆ 2,000 เรือนต่อวัน

Rolex ถูกจัดอันดับโดยนิตยสาร Forbes ซึ่งเป็นนิตยสารเกี่ยวกับธุรกิจและการเงินของอเมริกา ให้อยู่ในอันดับที่ 57 ในรายชื่อของแบรนด์นาฬิกาที่ทรงอิทธิพลที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลก โดยมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 7.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

อันดับที่ 9 TAG Heuer (แทค ฮอยเออร์)

TAG Heuer (แทค ฮอยเออร์)

TAG Heuer (แทค ฮอยเออร์) เป็นบริษัทที่ทำการออกแบบและผลิตนาฬิกา อีกทั้งยังเป็นที่รู้จักในวงการเครื่องประดับ แว่นตาหรือแม้แต่โทรศัพท์มือถือ บริษัทก่อตั้งขึ้นเมื่อ ปี ค.ศ. 1860 โดย เอดูอารค์ ฮอยเออร์ (Edouard Heuer) ณ เมือง แซงต์ อิมิเยร์ (St. Imier) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นที่รู้จักภายใต้ชื่อ “Uhrenmanufaktur Heuer AG”

ใน ปี ค.ศ. 1985 บริษัทถูกซื้อต่อภายใต้การนำของกลุ่ม “TAG Group” จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น “TAG Heuer” ที่เราคุ้นหูกันจนถึงทุกวันนี้ และเพียงไม่นานนัก ชื่อของบริษัทผลิตนาฬิกา Tag Heuer ก็โด่งดังไปทั่วโลกในฐานะบริษัทซึ่งเป็นผู้ที่คิดค้นและผลิตนาฬิกาจับเวลาหรือที่มีชื่อเรียกว่า “โครโนกราฟ” (Chronograph) จุดมุ่งหมาย คือ ความต้องการยกระดับระบบการจับเวลาให้อยู่ในระดับสูง ในยุคนั้น จนได้รับการขนานนามว่า “Avant-Garde” ซึ่งมีความหมายว่า “นักคิดค้นการจับเวลา”

TAG HEUER Chronograph

ใน ปี ค.ศ. 1999 Tag Heuer ได้เข้ารวมกลุ่มกับ LVMH (Louis Vuitton-Moët Hennessy) ซึ่งในกลุ่มนี้มีนาฬิกา Zenith, Ebel Chaumet, Benedom และ Fred รวมอยู่ด้วย ทำให้ปัจจุบัน Tag Heuer เป็นส่วนหนึ่งของผู้ผลิตนาฬิกาที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก! โดยถือหุ้น 50.1% ซึ่งมีมูลค่า 739 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

อันดับที่ 8 Omega (โอเมก้า)

นาฬิกา Omega (โอเมก้า)

OMEGA (โอเมก้า) แบรนด์นาฬิกาหรูสัญชาติสวิต ถือกำเนิดใน ปี ค.ศ. 1848 ผู้ก่อตั้ง คือ Louis Brandt (หลุยส์ แบรนด์) ณ เมือง La Chaux-de-Fonds ประเทศสวิตเซอร์แลนด์  ซึ่งในขณะที่เขามีอายุเพียง 23 ปี โดย Louis Brandt เริ่มต้นสร้างชื่อเสียงมาจากการประกอบนาฬิกาพกพา จากชิ้นส่วนของนักประดิษฐ์ในท้องถิ่น หลังจากนั้นผลงานของเขาก็ค่อย ๆ เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น

หลังการเสียชีวิตของเขาใน ปี ค.ศ. 1879 บุตรชายทั้ง 2 คือ Louis-Paul Brandt (หลุยส์ พอล แบรนด์) และ César Brandt (ซีซาร์ แบรนด์) ได้เข้ามารับช่วงต่อกิจการ ทั้งคู่ได้ทำการย้ายบริษัทไปที่เมือง Bienne เมื่อเดือน มกราคม ปี ค.ศ. 1880 เนื่องจากความพร้อมที่มีมากกว่าในด้านกำลังคน การติดต่อสื่อสาร รวมถึงด้านพลังงาน โดยเริ่มต้นจากโรงงานเล็ก ๆ ไปจนถึงซื้อตึกทั้งหลังในเดือนธันวาคมของปีเดียวกัน จนกระทั่ง 2 ปีต่อมา จึงได้ทำการย้ายบริษัทอีกครั้ง ไปอยู่ที่ Gurzelen district of Bienne ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่จนถึงปัจจุบัน

จนกระทั่ง ปี ค.ศ. 1903 Louis-Paul Brandt (หลุยส์ พอล แบรนด์) และ César Brandt (ซีซาร์ แบรนด์) ได้เสียชีวิตพร้อมกันทั้งคู่ โดยทิ้งบริษัทผู้ผลิตนาฬิกาสวิสที่ใหญ่ที่สุดในขณะนั้นไว้เบื้องหลัง ด้วยผลงานที่สร้างยอดการผลิตนาฬิกาได้ถึง 240,000 เรือนต่อปี และพนักงานร่วม 800 คน ไว้ในมือของกลุ่มผู้บริหารหนุ่มรุ่นลูก ซึ่งมีแกนนำ คือ พอล เอมิล แบรนด์ (Paul-Emile Brandt) และ เอเดรียน แบรนด์ (Adrien Brandt) ผู้ซึ่งเป็นบุตรชายของ Louis-Paul และ บุตรของ César

ในขณะนั้น บริษัทได้รับผลกระทบจากสภาวะความยากลำบาก อันเนื่องมาจากสงครามโลกครั้งที่ 1  แบรนด์ OMEGA จึงตัดสินใจที่จะรวมกิจการกับ Tissot ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1925 จนถึง ปี ค.ศ. 1930 ภายใต้ชื่อ “SSIH” โดยในช่วงทศวรรษที่ 70 SSIH ได้ประสบความสำเร็จอย่างมาก จนกระทั่งช่วงวิกฤตทางการเงินและเศรษฐกิจ ในระหว่าง ปี ค.ศ. 1975 ถึง ปี ค.ศ. 1980 และในปี ค.ศ. 1985 กิจการทั้งหมดถูกรวบซื้อโดยกลุ่มนักธุรกิจเอกชนกลุ่มหนึ่ง ภายใต้การบริหารของ นิโคลาส ฮาแย็ค (Nicolas Hayek) ในชื่อของ OMEGA

OMEGA SPEEDMASTER APOLLO 11 50th ANNIVERSARY MOONSHINE™ GOLD LIMITED EDITION

ทั้งนี้ทั้งนั้น OMEGA ยังคงมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อคุณสมบัติของนาฬิกา ที่มีความแม่นยำ เที่ยงตรง และยอดเยี่ยมที่สุด นำมาซึ่งนาฬิกาที่ผลิตขึ้นมาในวาระการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี แห่งความสำเร็จของภารกิจพิชิตดวงจันทร์ ภายใต้ชื่อรุ่นว่า “OMEGA SPEEDMASTER APOLLO 11 50th ANNIVERSARY MOONSHINE™ GOLD LIMITED EDITION”

ปัจจุบัน OMEGA อยู่ในกลุ่มของ Swatch Group โดยมีแบรนด์ดังอย่าง Blancpain, Breguet เข้าร่วมอยู่ด้วย ซึ่งกลุ่มนี้ได้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว เติบโตเป็นผู้ผลิตนาฬิกาชั้นแนวหน้าของโลก และแน่นอน ชื่อของ OMEGA ก็ยังคงเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่สร้างชื่อเสียงและสำคัญที่สุดแบรนด์หนึ่งของกลุ่ม

 

อันดับที่ 7 Penarai (พาเนอราย)

Penarai

จุดกำเนิดของ Penarai (พาเนอราย) เริ่มต้นเมื่อ ปี ค.ศ. 1860 ณ เมืองฟลอเรนซ์ (Florence) ประเทศอิตาลี โดย จิโอวานนี พาเนอราย (Giovanni Panerai) ซึ่งเขาได้ทำการเปิดร้านนาฬิกาขึ้นมา ภายใต้ชื่อ “Orologeria G.Panerai & Co.” ในขณะนั้น สำนักงานใหญ่อยู่ที่อิตาลี แต่ธุรกิจและการผลิตนาฬิกาส่วนใหญ่ เป็นการนำเข้านาฬิกาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์มาขาย

จนธุรกิจตกทอดมาอยู่ในมือรุ่นหลานอย่าง กุยโด พาเนอราย (Guido Panerai) ซึ่งได้ขยายไลน์การผลิตสินค้า นอกเหนือจากนาฬิกา ยังมีการผลิตเข็มทิศ เครื่องมือช่วยดำน้ำ เพื่อจำหน่ายแก่ทหารเรือของอิตาลีในขณะนั้น จึงได้มีโอกาสผลิตนาฬิกาให้กับทหารเรือ เช่นรุ่น Marina Militare จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1936 ทางกองทัพเรือของอิตาลี ต้องการนาฬิกาสำหรับนักประดาน้ำ (Italian Frogmen) ซึ่งนาฬิกาดังกล่าวจะต้องมีคุณสมบัติที่สามารถมองเห็นได้ชัดในน้ำลึก รวมถึงกันน้ำได้ดี

marina militare panerai

ทางด้าน Panerai ก็ได้มีการคิดค้นสารเรืองแสงชนิดหนึ่งขึ้น มีชื่อเรียกว่า “Radiomir” โดยมีส่วนผสมของเรเดียม อันเป็นที่มาของชื่อ เมื่อนำสารชนิดนี้บรรจุลงในหลอดใส แล้วนำไปติดตั้งกับเครื่องมือทหารต่าง ๆ ก็จะทำให้ทหารใช้ยุทธภัณฑ์นั้น ๆ ได้ในที่มืด ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของเครื่องวัดต่าง ๆ ศูนย์เล็งบนอาวุธ หรือแม้แต่เครื่องยิงตอร์ปิโด

ด้วยเหตุนี้ Panerai จึงตอบโจทย์ให้กับกองทัพเรืออิตาลี และได้รับความไว้วางใจจากทางกองทัพเรือ ให้มีการผลิต “นาฬิกาเรืองแสงพิเศษสำหรับนักดำน้ำในทะเล”  ในปี ค.ศ. 1935 และนั่นจึงนำไปสู่การผลิตนาฬิกาต้นแบบเรือนแรกในปีถัดมา การผลิตนาฬิกาในชื่อ Radiomir จริงใน ปี ค.ศ. 1938 Penarai จึงได้กลายมาเป็นผู้ผลิตนาฬิกาให้กับกองทัพเรืออิตาลีอย่างเป็นทางการ โดยมีบริษัทที่ผลิตนาฬิกา Rolex เป็นผู้ผลิตนาฬิกาให้ ตั้งแต่ตัวเรือน ระบบกลไก และเม็ดมะยม

ปัจจุบัน Penarai อยู่ภายใต้การบริหารงานของกลุ่ม Richemont โดยเข้าร่วมกลุ่มตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1997 มีฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ร่วมกับแบรนด์หรูอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิเช่น Piaget, IWC, Cartier, A. Lange & Söhne รู้จักกันในชื่อ “Officine Panerai”

 

อันดับที่ 6 IWC (ไอ ดับเบิลยู ซี ชาฟฟ์เฮาเซน)

IWC WATCH International Watch Company

IWC (ไอ ดับเบิลยู ซี ชาฟฟ์เฮาเซน) หรือชื่อเต็มว่า International Watch Company เป็นผู้ผลิตนาฬิกาสวิส ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ที่เมือง ชาฟฟ์เฮาเซิน (Schaffhausen) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มสภาอุตสาหกรรมนาฬิกาสวิส ถูกก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1868 โดยวิศวกรและช่างผลิตนาฬิกาชาวอเมริกัน นามว่า ฟลอเรนซ์ ออเรียลโต โจนส์ (Florentine Ariosto Jones) ด้วยความตั้งใจที่จะผสมผสานงานฝีมือของชาวสวิสเข้ากับเทคโนโลยีวิศวกรรมที่ทันสมัยจากสหรัฐอเมริกา เพื่อผลิตนาฬิกาคุณภาพสูง

ก่อนหน้าที่ฟลอเรนซ์จะทำการตั้ง IWC company นั้น  เขาเคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการของบริษัท E. Howard & Co., ตั้งอยู่ที่เมืองบอสตัน ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกาของอเมริกา เกิดจากการร่วมมือกันระหว่าง Elgin, Howard, Watham จุดประสงค์เพื่อขยายฐานการผลิตนาฬิกาให้กว้างขึ้น ไปสู่ตลาดใหม่ ๆ ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มชนชั้นกลางได้มากขึ้น ไม่ให้มีข้อจำกัดเพียงแค่การจำหน่ายในกลุ่มของคนร่ำรวยมีเงินเท่านั้น

การพุ่งเป้าการตลาดไปที่ชนชั้นกลาง จะสามารถผลิตนาฬิกาออกมาจำหน่ายในจำนวนที่มากขึ้นได้ เพราะเป็นตลาดที่ค่อนข้างใหญ่ สามารถผลิตนาฬิกาออกมาทีละล็อตใหญ่ได้ นั่นหมายถึงการลดต้นทุนในการผลิตสินค้า ซึ่งแต่เดิมการผลิตชิ้นส่วนแต่ละะชิ้น ผลิตโดยใช้ช่างฝีมือ ทำให้ผลผลิตมีจำนวนจำกัด อีกทั้งช่างฝีมือในอเมริกาในขณะนั้นก็มีไม่มากนัก จนกระทั่งในช่วง ปี ค.ศ. 1850 ฟลอเรนซ์ บังเอิญได้พบกับ โจนฮาน ไฮน์ริช โมเซอร์ (Johann Heinrich Moser) ช่างทำนาฬิกาชาวสวิส ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่เมือง ชาฟฟ์เฮาเซิน (Schaffhausen) ใกล้กับแม่น้ำไลน์

โจนฮาน ได้ให้คำแนะนำว่าหากตั้งโรงงานที่นี่ โดยใช้แหล่งน้ำเป็นพลังงานในการผลิต และการขับเคลื่อนเครื่องจักร จะเป็นการลดต้นทุนได้อีกทางหนึ่ง เข้าทั้งคู่จึงได้ร่วมวางรากฐานสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำขึ้น สำหรับเป็นผู้ผลิตนาฬิกาเพียงรายเดียวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อย่างไรก็ตามธุรกิจดำเนินไปได้ไม่ราบรื่นเท่าใดนัก เนื่องด้วยภาษีนำเข้าที่สูงมากของอเมริกา ปัญหาทางด้านเทคนิคของเครื่องจักร และปัญหาด้านเงินทุน  ในปี ค.ศ. 1875 ฟลอเรนซ์ ถูกบังคับให้ขายหุ้น และผู้ที่เข้ามาซื้อกิจการต่อ คือ Johannes Rauschenbach-Vogel

ในปี ค.ศ. 1885 IWC ผลิตนาฬิกาที่แสดงเวลาและนาทีเป็นแบบ Digital เป็นครั้งแรก โดยใช้สิทธิบัตรที่ได้รับอนุญาตจากชาวออสเตรีย โดยใช้ชื่อว่า พาลวีเบอร์ (Pallweber) และในปี ค.ศ. 1944 ซึ่งเป็นช่วงสภาวะสงครามโลกครั้งที่ 2 ทาง IWC ก็ได้คิดค้นนาฬิกาที่ต่อต้านสนามแม่เหล็กได้ คือ IWC Mark IX Royal Airforce Pilot เพื่อสำหรับใช้ในงานทางการทหารของอังกฤษ อีกทั้ง IWC ยังเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีในการสร้างนาฬิกาแบบใหม่ ๆ โดยเฉพาะนาฬิกาที่ผลิตจากวัสดุไทเทเนียมตัวแรกที่ได้รับการพัฒนาขึ้นในปี ค.ศ. 1978

IWC Mark IX Royal Airforce Pilot’s Watch

รวมถึงการผลิตนาฬิการะบบ Automatic ซึ่งมีความสามารถในการป้องกันการเคลื่อนไหวของสนามแม่เหล็ก อีกทั้งยังมีรูปลักษณ์ที่สวยงาม นับได้ว่า นาฬิกาของ IWC เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก ด้วยคุณภาพที่สูง แต่มีความหรูหราและราคาสมเหตุสมผลกว่าแบรนด์อื่น ๆ ทำให้เป็นที่ต้องการของเหล่านักสะสมนาฬิกาอีกด้วย ปัจจุบัน IWC อยู่ภายใต้การบริหารงานของกลุ่ม Richemont โดยเข้าร่วมกลุ่มตั้งแต่ ปี ค.ศ. 2000 มีฐานการผลิตอยู่ทางด้านตะวันออก ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์

 

อันดับที่ 5 Patek Philippe (ปาเต็ก ฟิลิปป์)

Patek Philippe

อีกหนึ่งแบรนด์นาฬิกาสวิส ที่ขึ้นแท่นเป็นนาฬิการะดับ Ultra-Luxury นาฬิกาแบรนด์  Patek Philippe (ปาเต็ก ฟิลิปป์) โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุง Geneva และ the Vallée de Joux เป็นบริษัทที่ทำการออกแบบและผลิตนาฬิกาอันเลอค่า รวมถึงกลไกนาฬิกาที่ถือได้ว่ามีความซับซ้อนมากที่สุด

เรื่องราวทั้งหมด เริ่มต้นขึ้น โดย อังตวน นอร์เบิร์ต เดอ ปาเต็ก (Norbert de Patek) อดีตนายทหารผู้มากความสามารถชาวโปแลนด์ ร่วมหุ้นกับ ฟรองซัวส์ ซีซาเป็ค (Franciszek Czapek) ช่างทำนาฬิกามากความสามารถ ก่อกำเนิดบริษัทผลิตนาฬิกานามว่า “Patek, Czapek & Cie – Fabricants à Genève” ในปี ค.ศ. 1839 ธุรกิจดำเนินมาได้เกือบ 6 ปี การเป็นหุ้นส่วนกันระหว่างปาเต็กและซีซาเป็ค ไม่ค่อยราบรื่นเท่าที่ควรนัก เกิดปัญหาภายในขึ้นมากมาย เนื่องจากซีซาเป็ค ค่อนข้างไม่รับผิดชอบงานและหนีงานบ่อยครั้ง นั่นเป็นเหตุให้ปาเต็กเริ่มมองหาเพื่อนร่วมงานคนใหม่

ในปี ค.ศ. 1844 ปาเต็ก พบกับนักประดิษฐ์หนุ่มชาวฝรั่งเศส ที่งาน French Industrial Exposition นามว่า ฌอง-เอเดรียง ฟิลีปป์ (Jean-Adrien Philippe) ผู้เชี่ยวชาญด้านกลไกและระบบต่าง ๆ ของนาฬิกา และร่วมกันตั้งบริษัทใหม่กับ ฌอง-เอเดรียง ฟิลีปป์ ภายใต้ชื่อ “Patek Philippe & Cie – Fabricants à Genève” โดย ฟิลีปป์ ได้ทำการคิดค้นระบบกลไกแบบใหม่ ที่มีชื่อว่า Keyless Steam-winding System

Keyless Steam-winding System เป็นระบบไขลานและตั้งเวลาของนาฬิกาด้วยเม็ดมะยมแทนกุญแจ ระบบกลไกแบบนี้ ช่วยแก้ปัญหาฝุ่นและน้ำเข้านาฬิกาอันเนื่องมาจากการใช้กุญแจแกะด้านหลังเพื่อตั้งเวลาในนาฬิการุ่นเก่า ๆ ระบบกลไกแบบใหม่นี้ได้รับความนิยมอย่างมาก และถือได้ว่าเป็นต้นแบบของกลไกนาฬิกาแทบจะทุกเรือนบนโลกใบนี้

Patek Philippe Nautilus Ref. 5712/1A

หากพูดถึงนาฬิการุ่นยอดนิยมของแบรนด์นี้ คงต้องยกให้ตระกูล Nautilus ซึ่งถูกออกแบบมาอย่างหรูหราและสง่างาม สามารถใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย รุ่นที่โดดเด่นได้แก่  Patek Philippe Nautilus Ref. 5712/1A ซึ่งเป็นตัวแทนของภาพลักษณ์ที่งามสง่าในแบบ Luxury Sport น้ำหนักเบาอีกทั้งมีความคงทนต่อทุกสภาวะและทุกรอยขีดข่วนที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งาน มาพร้อมกับความพิเศษ คือ ด้านหลังเป็นกระจก สามารถมองเห็นกลไกภายในอย่างชัดเจน ซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์และเป็นจุดเด่นของนาฬิการุ่นนี้เลยทีเดียว

ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1839 จนถึงปัจจุบัน Patek Philippe ผลิตนาฬิกาออกมา “น้อยกว่า 1 ล้านเรือน”  เนื่องจากแต่ละเรือนใช้ช่างฝีมือประกอบชิ้นนาฬิกาด้วยมือเท่านั้น พิถีพิถันทุกขั้นตอน ตั้งแต่คนออกแบบระบบกลไก คนผลิตชิ้นส่วนแต่ละชิ้น แต่ละรุ่นมีระยะเวลาผลิตที่แตกต่างกันไป รวมทั้งได้รับการพิจารณาจากผู้เชี่ยวชาญหลายคนว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์นาฬิกาหลักที่มีชื่อเสียงที่สุด และอยู่ใต้การบริการงานของตระกูล Stern

 

อันดับที่ 4 A. Lange & Söhne (อา. ลังเงอ อุนด์ โซเนอ)

A. Lange & Söhne

A. Lange & Söhne (อา. ลังเงอ อุนด์ โซเนอ) เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตนาฬิกาคุณภาพสูงที่ดีที่สุดแบรนด์หนึ่งจากเยอรมัน ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1845 โดย เฟอร์ดินานด์ อดอล์ฟ ลังเงอ (Ferdinand Adolph Lange) ณ เมืองเล็ก ๆ นามว่า Glashütte อันแทบไม่มีใครรู้จัก เขาลงหลักปักฐานก่อตั้งโรงงานผลิตนาฬิกาภายใต้ชื่อ A.Lange & Söhne ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นสมาชิกราชวงศ์ในยุโรป รวมถึงผู้มีชื่อเสียงในแวดวงสังคมชั้นสูง ชื่อเสียงของเขากว้างไกล รวมทั้งสร้างชื่อให้เมืองเล็ก ๆ อย่าง Glashütte เริ่มเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ในฐานะเมืองผลิตนาฬิกา

หลังการเสียชีวิตของเขา ลูกชายทั้ง 2 เอมิล (Emil) และ ริชาร์ด (Richard) รับช่วงบริหารต่อ ผลิตนาฬิกาแบบพกพาที่มีคุณภาพที่สุดในสมัยนั้น กิจการถูกส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่น จนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 2 ปะทุขึ้น เป็นเหตุให้บริษัทต้องหยุดกิจการลงในปี ค.ศ. 1948 โดย วัลเตอร์ ลังเงอ (Walter Lange) ซึ่งมีศักดิ์เป็นเหลนของ เฟอร์ดินานด์ ต้องลี้ภัยออกจากเยอรมนีตะวันออก (East Germany) แต่โชคก็ยังเข้าข้าง เมื่อมีการทำลายกำแพงเบอร์ลิน และมีการรวมเยอรมันตะวันตกกับตะวันออกเข้าไว้ด้วยกัน วัลเตอร์ ลังเงอ จึงได้ก่อตั้งบริษัทขึ้นใหม่ ภายใต้ชื่อ Lange Uhren GmbH

Lange 1, Saxonia, Arkade และ Tourbillon "Pour le Mérite"

ในปี ค.ศ. 1994 A. Lange & Söhne กลับคืนสู่สังเวียนนาฬิการะดับ Luxury อีกครั้ง โดยปล่อยคอลเล็กชั่นนาฬิกาทั้งหมด 4 รุ่น อันได้แก่ Lange 1, Saxonia, Arkade และ Tourbillon “Pour le Mérite” ปัจจุบัน โรงงานของ A. Lange & Söhne มีบุคลากรมากกว่า 770 คน โดยแบ่งเป็นช่างฝีมือทำนาฬิกาประมาณ 200 คน ประจำอยู่ตามแผนกต่าง ๆ เช่น แผนกต้นแบบ แผนกแกะลวดลายชิ้นส่วน แผนกประกอบนาฬิกา แผนกประกอบประสิทธิภาพกลไก ซึ่งก่อนจะมาเป็นช่างฝีมือที่นี่ จะต้องผ่านการฝึกฝนอบรมอย่างเข้มข้นจนเชี่ยวชาญ ภายใต้การบริหารงานของกลุ่ม Richemont โดยเข้าร่วมกลุ่มตั้งแต่ ปี ค.ศ. 2000

 

อันดับที่ 3 Montblanc (มงต์บลอง)

Montblanc

Montblanc (มงต์บลอง) เป็นแบรนด์สัญชาติเยอรมัน ผู้ขึ้นชื่อในเรื่องการผลิตเครื่องเขียน นาฬิกา เครื่องประดับ รวมถึงเครื่องหนัง ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ปี ค.ศ. 1906 โดย Claus-Johannes Voss  Alfred Nehemias และ August Eberstein ที่ประเทศเยอรมนี (ปัจจุบันมีฐานการผลิตอยู่ที่สวิสเซอร์แลนด์ เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “Simplo Filler Pen”

Montblanc เริ่มต้นจากการผลิตอุปกรณ์ เครื่องเขียน นาฬิกา ผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องหนัง น้ำหอม และแว่นตา โดยมีการนำเสนอผลงานการออกแบบดีไซน์ที่ทันสมัย ผสมผสานกับงานฝีมืออันแสนปราณีต ด้วยการผลิตระดับสูง ผ่านทักษะและควาเชี่ยวชาญของช่างฝีมือในโรงงานแต่ละแห่งของ Montblanc เช่น โรงงานอุปกรณ์เครื่องเขียน ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Humburg ประเทศเยอรมนี โรงงานนาฬิกาที่เมือง Le Locle และเมือง Villeret ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ หรือโรงงานผลิตเครื่องหนังในเมือง Florence ประเทศอิตาลี

Montblanc Meisterstuck

ในปี ค.ศ. 1997 Montblanc ทำการเปิดตัวนาฬิกาที่มีชื่อรุ่นว่า “Montblanc Meisterstuck” โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากปากกา Montblanc Meisterstuck ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในขณะนั้น การออกแบบและดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้นาฬิกรุ่นนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก รวมถึงได้รับการยอมรับในด้านคุณภาพการผลิต

ปัจจุบัน Montblanc เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม Richemont ภายใต้การบริหารของครอบครัว South African Rupert เป็นหนึ่งในแบรนด์ชั้นนำของโลก ทั้งทางด้านเครื่องเขียนอันหรูหรา นาฬิกาเครื่องประดับ เครื่องหนัง เครื่องหอม และแว่นตา ซึ่งไม่เคยทิ้งความเป็นสุดยอดรวมถึงไม่เคยละเลยถึงความต้องการของลูกค้า ซึ่งได้ปรากฏอยู่ในความสำเร็จของแบรนด์จนทุกวันนี้

 

อันดับที่ 2 Breitling (ไบร์ทลิ่ง)

Breitling

Breitling (ไบร์ทลิ่ง) เป็นบริษัทเอกชนที่ผลิตและจัดจำหน่ายนาฬิกาโครโนมิเตอร์ (Chronometer) จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นที่หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในเมือง แซง เอเมียร์ (Saint-Imier) ใกล้เทือกเขาจูร่า (Bernese Jura) ประเทศฝรั่งเศส ในปี ค.ศ. 1884 โดย ลีออง ไบร์ทลิ่ง (Léon Breitling) ริเริ่มโรงงานผลิตนาฬิกาขึ้นมา ด้วยเป้าหมายในการสร้างสรรค์นาฬิกาที่ใช้จับเวลาคุณภาพเยี่ยมของโลก

ปี ค.ศ. 1884 คือช่วงเวลาที่ ลีออง เริ่มประดิษฐ์นาฬิกาจับเวลา ภายใต้แบรนด์ Breitling ซึ่งช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเดียวกับที่มีการพัฒนาด้านอากาศยาน เป็นผลให้อุปกรณ์จับเวลาที่มีการประดิษฐ์ขึ้นในขณะนั้น ถูกนำมาใช้กับเครื่องบินแบบต่าง ๆ และด้วยคุณภาพที่เป็นเลิศ ทำให้แบรนด์ Breitling ได้รับความนิยมในเวลาอันรวดเร็ว จากโรงงานผลิตนาฬิกาเล็ก ๆ ได้ขยายใหญ่ขึ้น และย้ายไปลงหลักปักฐาน ณ ลา โชซ์-เดอ-ฟองด์ (La Chaux-de-Fonds) อันเป็นศูนย์กลางการผลิตนาฬิกาชื่อดังของโลก

Breitling Bentley Le Mans 24 Hour A22362

Breitling Bentley Le Mans 24 Hour A22362

Breitling มีการพัฒนาด้านเทคโนโลยี รวมทั้งรูปแบบนาฬิกาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวงการอากาศยานและการกีฬามาจนถึงปัจจุบัน ด้วยประสบการณ์ที่ได้รับการสั่งสมมานานนับศตวรรษ หล่อหลอมให้ Breitling เป็นนาฬิกาสำคัญระดับโลก ที่ครองความเป็นเข้าระบบจักรกลที่มีความเที่ยงตรงจนถึงระดับโครโนมิเตอร์ และเป็นรายเดียวที่ได้รับประกาศนียบัตรรับรองความเที่ยงตรงของนาฬิกาทุกรุ่น ในแบรนด์ของตนเอง

ในปี ค.ศ. 2001-2003 แบรนด์ Breitling เป็นสปอนเซอร์ของทีม Bentley ในการแข่งขันที่มีชื่อว่า “Le Mans 24 Hours Campaign” มีการผลิตนาฬิกาที่ระลึกออกมาในชื่อรุ่น “Breitling Bentley 24 Le Mans” และ ในปี ค.ศ. 2009 ทาง Breitling ได้มีการพัฒนากลไกนาฬิการะบบโครโนกราฟที่นำใช้ในนาฬิกาเรือนแรกของแบรนด์ โดยมีชื่อรุ่นว่า “Breitling Chronomat 01”

 

อันดับที่ 1 Hublot (อูโบลต์)

Hublot

Hublot (อูโบลต์) เป็นหนึ่งในแบรนด์นาฬิกาหรู ก่อตั้งในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยชายชาวอิตาเลียน นามว่า คาร์โล คร็อคโค่ (Carlo Crocco) ในปี ค.ศ. 1980 เขาเป็นผู้บุกเบิกการเอาแผ่นยางธรรมชาติ มาประดิษฐ์เป็นสายนาฬิกาข้อมือเพื่อใช้กับนาฬิกาตัวเรือนทองคำ ซึ่งเป็นแนวความคิดที่ไม่เคยมีใครกล้าทำมาก่อน ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เป็นที่มาของปรัชญา “The Art of Fusion” หรือ “ศิลปะแนวผสมผสาน”

ถือได้ว่า Hublot เป็นแบรนด์นาฬิกาหรูที่มีอายุน้อยที่สุดเลยก็ว่าได้ แต่ไม่เคยหยุดยั้งที่จะสร้างชื่อเสียง โดยเฉพาะในโลกของการกีฬา แม้ว่าจะล้มเหลวในการดึงดูดลูกค้าในการเปิดตัวครั้งแรกที่งาน Basel Watch Fair เมื่อปี ค.ศ. 1980 ก็ตาม แต่หลังจากนั้นไม่นาน Hublot ก็ได้พิสูจน์ตัวตนโดยการทำยอดขายได้มากถึง 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีแรกที่มีการวางจำหน่าย

Hublot ยึดถือแนวทางในการปฏิบัติและบุกเบิกในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อมาใช้ในการผลิตนาฬิกาจนถึงทุกวันนี้ เอกลักษณ์ คือ ตัวเรือนที่มีลักษณะเฉพาะ ยึดด้วยสกรูว์ไทเทเนียม 12 ตัว โดยมีรูปร่างคล้ายกับรูปทรงของช่องอากาศทรงกลมด้านข้างของเรือ (Porthole) อันเป็นที่มาของชื่อ Hublot ซึ่งมีความหมายเดียวกับ Porthole ในภาษาฝรั่งเศส เรียกได้ว่าเป็นนาฬิกาอีกแบรนด์หนึ่งที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก

ช่วงแรกในการทำแบรนด์นั้นอาจไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่จุดพลิกผันของแบรนด์อยู่ที่การเข้ามารับตำแหน่งซีอีโอของ ฌอง-โคลด บีแวร์ (Jean-Claude Biver) เมื่อปี ค.ศ. 2004 และได้สร้างคอลเลคชั่น Big Bang นาฬิกาสปอร์ตโครโนกราฟสไตล์ร่วมสมัยขึ้นมาในปี ค.ศ. 2005 จากนั้นก็สามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นได้ถึง 4 เท่าตัวในปี ค.ศ.2006 ซึ่งในปัจจุบัน Biver ยังคงดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการของ Hublot อยู่

Hublot BIG BANG

ในปี ค.ศ. 2006 Hublot ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในวงการกีฬาเป็นครั้งแรก ด้วยการสนับสนุนทีมชาติสวิส ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ตามด้วยฟุตบอลยูโร 2008 และสร้างชื่อเสียงในวงการกีฬาด้วยการเข้าสนับสนุนสโมสรฟุตบอลชื่อดังแห่งเกาะอังกฤษ “แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด” นับแต่นั้นเป็นต้นมา จึงมีการสร้างสรรค์นาฬิการุ่น Limted Edition มากมายสำหรับองค์กรต่าง ๆ ที่แบรนด์ได้เข้าไปมีส่วนร่วม

ปัจจุบัน Hublot มีสาขาทั้งหมด 50 สาขาทั่วโลก มีการเติบโตและมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในแบรนด์นาฬิกาสวิสแท้ที่มีชื่อเสียง ซึ่งได้รับการยอมรับไปทั่วโลก ในด้านนวัตกรรมด้านวัสดุศาสตร์ ดีไซน์อันโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ และเปี่ยมไปด้วยความล้ำเลิศของกลไกการทำงาน

ROLEX

Top 10 Watch จัดอันดับแบรนด์นาฬิกายอดนิยมระดับโลก

นาฬิกาสุดหรู นอกเหนือจากเรื่องของมูลค่าแล้ว เรื่องราวตำนานความเป็นมาหรือประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ของแบรนด์ก็เป็นอีกหนึ่งมนต์เสน่ห์ดึงดูดใจให้ ให้เหล่านักสะสมและนักลงทุนสนใจ แน่นอนว่ายังมีผู้คนอีกจำนวนมากที่ยังคงหลงไหลไปกับเรื่องราว ศิลปะ ความปราณีต รวมถึงเอกลักษณ์ที่แต่ละแบรนด์บรรจงสร้างสรรค์ออกมาเป็นเวลาร่วมศตวรรษ และทั้งหมดนี้คือ Top 10 Watch นาฬิกาแบรนด์หรูที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในระดับโลก ที่ยังคงความคลาสสิกไว้จนถึงปัจจุบัน

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น
* Please Don't Spam Here. All the Comments are Reviewed by Admin.

Top Post Ad

Below Post Ad